วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556

  
                     โครงงาน 6 อาชีพในท้องถิ่น

               คณะผู้จัดทำ
                     1 นายกฤชณัท         สายบัวทอง         ม.5/11  เลขที่ 1
                     2 นายชยากร            นาคเกษม           ม.5/11  เลขที่ 4
                     3 น.ส.ศรัณยา          ขวัญสมคิด         ม.5/11  เลขที่ 25
                     4 น.ส.ณัฐวดี            วรพลาวุฒิ          ม.5/11  เลขที่ 32
                     5 น.ส.นภา               โรจน์อรุณ          ม.5/11  เลขที่ 34
                     6 น.ส.ประทุมมาศ   สมทรัพย์เจริญ    ม.5/11  เลขที่ 37
                     7 น.ส.ปาลิตา           เลิศสิทธิชัย          ม.5/11  เลขที่ 38
                     8 น.ส.ไพลิน           อ่อนโพธิ์แก้ว       ม.5/11  เลขที่ 39
                    
            ครูที่ปรึกษา
            นาย ประเสริฐ คนยงค์
          โรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย
                   สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 9
                ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556
บทคัดย่อ
           การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทราบถึงความหมายของอาชีพ  อาชีพเป็นรูปแบบการดำรงชีพในสังคมมนุษย์ปัจจุบัน อาชีพเป็นหน้าที่ของบุคคลในสังคม การที่บุคคลประกอบอาชีพจะได้มาซึ่งค่าตอบแทน หรือ รายได้ เพื่อใช้จ่ายในการดำรงชีวิต
         กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้ามีอาชีพ 6 อาชีพที่คณะผู้จัดทำสนใจ คือ ค้าขาย เภสัชกร กาวน์ มาเก็ตติ้ง ครู ผู้แทนยา โครงงาน 6 อาชีพในท้องถิ่น มีจุดมุ่งหมายในการทำงาน โดยการออกไปสำรวจ 6 อาชีพนี้เพราะอยากรู้ค่านิยมของอาชีพต่างๆว่ามีคนสนใจมากน้อยแค่ไหนและในสาขาอาชีพทั้ง 6อาชีพนั้นต้องเรียนอะไรถึงจะมาประกอบอาชีพทั้ง 6 อาชีพนี้ได้

          ผลจากศึกษาพบว่ามีข้อมูลที่น่าสนใจมากมายที่เกี่ยวกับอาชีพทั้ง 6 อาชีพ และมีคนจำนวนมากที่ต้องการจะศึกษาต่อให้ถูกกับสายงานที่ตัวเองต้องการทำ 6 อาชีพนี้อาจเป็นการแนะแนวทางให้กับผู้ที่สนใจอาชีพเหล่านี้ 

กิตติกรรมประกาศ
                         อาชีพเป็นรูปแบบการดำรงชีพในสังคมมนุษย์ปัจจุบัน อาชีพเป็นหน้าที่ของบุคคลในสังคม การที่บุคคลประกอบอาชีพจะได้มาซึ่งค่าตอบแทน หรือ รายได้ เพื่อใช้จ่ายในการดำรงชีวิต อาชีพที่จำเป็นต้องความรู้ความสามารถเฉพาะด้านเรียกว่า วิชาชีพ
          สาเหตุที่เลือกทำ 6 อาชีพนี้เพราะว่าเป็นอาชีพที่น่าสนใจ และเป็นอาชีพที่บุคคลใกล้ตัวของสมาชิกในกลุ่มทุกคนประกอบอาชีพอยู่เลยนำมาทำเป็นโครงงานให้ทุกคนได้ศึกษากัน                                                                          
บทที่1

บทนำ

1. ความเป็นมาและความสำคัญของการจัดทำโครงงาน
         อาชีพเป็นรูปแบบการดำรงชีพในสังคมมนุษย์ปัจจุบัน อาชีพเป็นหน้าที่ของบุคคลในสังคม การที่บุคคลประกอบอาชีพจะได้มาซึ่งค่าตอบแทน หรือ รายได้ เพื่อใช้จ่ายในการดำรงชีวิต อาชีพที่จำเป็นต้องความรู้ความสามารถเฉพาะด้านเรียกว่า วิชาชีพ เช่น วิศวกร แพทย์ พยาบาล ทนายความ และอาชีพที่ถูกกฎหมายและศีลธรรม เรียกว่า สัมมาชีพ เช่น ค้าขาย ส่วนบางอาชีพที่ผิดกฎหมาย เรียกว่า มิจฉาชีพ เช่น โจร อาชีพอาจมีรายได้ต่างๆกันไป ลักษณะอาชีพที่เป็นลูกจ้างจะได้ค่าตอบแทนในรูปแบบเงินเดือน อาชีพค้าขายหรือประกอบกิจการส่วนตัวหรือ การลงทุนจะได้ค่าตอบแทนในรูปแบบ กำไร                                                                                                                                                                                               
2.วัตถุประสงค์
   1) เพื่อศึกษาเกี่ยวกับอาชีพนั้นๆ
   2) ต้องการสำรวจว่าอาชีพนั้นมีผลดีอย่างไร
   3) อยากรู้เกี่ยวกับความสนใจของอาชีพนั้นๆ
   4) สำรวจเกี่ยวกับบุคลที่ประกอบอาชีพนั้นๆ
   5) อยากรู้เกี่ยวกับว่าต้องเรียนอะไรถึงจะประกอบอาชีพนั้นได้
3.เป้าหมาย
   1) ปริมาณ สัมภาษณ์ผู้ประกอบอาชีพอย่างน้อย 6 อาชีพ
   2) คุณภาพ สำเร็จ,ราบรื่น
4.ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากโครงงาน
  เพื่อเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพและนำความรู้ที่ได้ไปเลือกอาชีพที่เราสนใจ
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ทฤษฎีหรือแนวความคิดในการจัดทำโครงงาน
อาชีพ หมายถึงการทำกิจกรรม การทำงาน การประกอบการที่ไม่เป็นโทษแก่สังคมและมีรายได้ตอบแทนโดยอาศัยแรงงาน ความรู้ ทักษะ อุปกรณ์ เครื่องมือ วิธีการ แตกต่างกันไป กลุ่มอาชีพตามลักษณะการ ประกอบอาชีพ มี 2 ลักษณะ คือ อาชีพอิสระ และอาชีพรับจ้าง
อาชีพอิสระ หมายถึง อาชีพทุกประเภทที่ผู้ประกอบการดำเนินการด้วยตนเอง

แต่เพียงผู้เดียวหรือเป็นกลุ่ม อาชีพอิสระเป็นอาชีพที่ไม่ต้องใช้คนจำนวนมาก แต่หากมีความจำเป็นอาจมีการจ้างคนอื่นมาช่วยงานได้ เจ้าของกิจการเป็นผู้ลงทุน และจำหน่ายเอง คิดและตัดสินใจด้วยตนเองทุกเรื่อง ซึ่งช่วยให้การพัฒนางานอาชีพ เป็นไปอย่างรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ การประกอบอาชีพอิสระ เช่น ขายอาหาร ขายของชำ ซ่อมรถจักรยานยนต์ ฯลฯ ในการประกอบอาชีพอิสระ ผู้ประกอบการจะต้องมีความรู้ ความสามารถในเรื่อง การบริหาร การจัดการ เช่น การตลาด ทำเลที่ตั้ง เงินทุน การตรวจสอบ และประเมินผล เป็นต้น 

อาชีพรับจ้าง หมายถึง อาชีพที่มีผู้อื่นเป็นเจ้าของกิจการ โดยตัวเองเป็นผู้รับจ้าง ทำงานให้ และได้รับค่าตอบแทนเป็นค่าจ้าง หรือเงินเดือน อาชีพรับจ้างประกอบด้วย บุคคล 2 ฝ่าย ซึ่งได้ตกลงว่าจ้างกัน บุคคลฝ่ายแรกเรียกว่า "นายจ้าง" หรือผู้ว่าจ้าง                                                                                                                                                                                                          

บุคคลฝ่ายหลังเรียกว่า "ลูกจ้าง" หรือผู้รับจ้าง มีค่าตอบแทนที่ผู้ว่าจ้างจะต้องจ่ายให้แก่ ผู้รับจ้างเรียกว่า "ค่าจ้าง"                  
สรุปว่าความหมายของอาชีพหมายถึง อาชีพ เป็น รูปแบบการดำรงชีพในสังคมมนุษย์ปัจจุบัน อาชีพเป็นหน้าที่ของบุคคลในสังคม การที่บุคคลประกอบอาชีพจะได้มาซึ่งค่าตอบแทน หรือ รายได้ เพื่อใช้จ่ายในการดำรงชีวิต

อาชีพครู

อาชีพครู คือ อาชีพที่ ถ่ายทอดความรู้ ด้วยวิธีการสอนและการจัดการเรียนรู้หลากหลายรูปแบบ
เพื่อให้มนุษย์เกิดการเรียนรู้ และพัฒนาศักยภาพของตนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
อาชีพครู สามารถจำแนกออกได้หลายประเภทตามลักษณะการสอนและลักษณะของสังกัดอีกด้วย
เช่น
ครูในสังกัดโรงเรียนสามัญ จะประกอบไปด้วยครู 8 กลุ่มสาระ และครูกิจกรรม
ยกตัวอย่างเช่น ครูผู้สอนภาษาต่างประเทศ ครูผู้สอนภาษาไทย
ครูผู้สอนคณิตศาสตร์ ครูผู้สอนศิลปะ
ครูผู้สอนการงานอาชีพและเทคโนโลยี ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์
ครูผู้สอนสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ครูผู้สอนพลศึกษาและสุขศึกษา
ครูผู้จัดกิจกรรมแนะแนว และอื่น ๆ ตามลักษณะการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ครูในสังกัดโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาสายอาชีพ/อาชีวะ จะประกอบไปด้วยครูผู้มีความชำนาญด้านสายอาชีพ
ยกตัวอย่างเช่น
ครูผู้สอนช่างยนต์ ครูผู้สอนเขียนแบบ
ครูผู้สอนช่างอิเล็กทรอนิกส์ ครูผู้สอนช่างไฟฟ้า
ครูผู้สอนช่างก่อสร้าง ครูผู้สอนช่างกล
ครูผู้สอนช่างเชื่อม และครูผู้สอนอื่น ๆ ตามลักษณะสายอาชีพที่ต้องการฝึกฝนผู้เรียนให้เกิดความพร้อมในการประกอบอาชีพ ตามสาขาวิชาที่เปิดสอน
ครูนอกสังกัด นับว่าเป็นครูเช่นกัน เช่น ครูในสถาบันกวดวิชา
ครูสอนดนตรี ครูสอนเต้น ก็ถือได้ว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นครู แต่ไม่ได้อยู่ในสังกัดของกระทรวงศึกษาธิการ อาจไม่มีใบประกอบวิชาชีพครู
แต่บุคคลเหล่านั้นถือว่าได้มีการสั่งสอน จึงจัดว่าเป็นครู(ตามทัศนคติของผมเอง)
หรือมากไปกว่านั้นยังมีครูพื้นบ้าน และผู้ที่ถ่ายทอดความรู้ต่าง ๆ เขาก็คือครูโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจก็ตาม
และอาจมีประเภทสายการสอนของครูในยุคอนาคตเกิดขึ้นใหม่ตามวิทยาการที่เปลี่ยนแปลงอีกมากมาย เพราะเกิดวิทยาการใหม่ ๆ ย่อมต้องมีการถ่ายทอดความรู้ จึงต้องพึ่งพาผู้มีความรู้มาถ่ายทอด
ครูก็คือผู้ถ่ายทอดความรู้ที่ตนมีให้ผู้อื่น เพื่อให้เกิดความรู้และสติปัญญาในเรื่องนั้น ๆ
คุณสมบัติของผู้ประกอบอาชีพครู
1.  ผู้จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีขึ้นไป (คณะครุศาสตร์/คณะศึกษาศาสตร์)
2.  มีใบประกอบวิชาชีพครู
3.  มีความรู้ความชำนาญเฉพาะเรื่อง ตามวิชาที่ตนถนัด
4.  มีความซื่อสัตย์ สุจริต
5.  รักเด็ก มีจิตใจโอบอ้อมอารี
6.  ศรัทธาต่อวิชาชีพครู
7.  รักการแสวงหาความรู้
8.  ชอบการสอน
9.  อื่นๆ
นอกเหนือจากนี้คือคุณสมบัติของครูที่มีความสามารถเฉพาะด้านโดยไม่จำเป็นต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้
1)  มีความรู้ ความชำนาญและเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ โดยเฉพาะ
2)  เป็นผู้มากประสบการณ์ และต้องการถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้รู้และทราบ
3)  เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ที่ตนมีให้ผู้อื่นด้วยวิธีการต่าง ๆ
4)  อื่น ๆ
ขอบข่ายงานของอาชีพครู
1.  การจัดการสอน/การจัดการเรียนรู้
2.  เป็นที่ปรึกษาให้ผู้เรียน
3.  ดูแลผู้เรียนทุกคนที่อยู่ในโรงเรียน
4.  แสวงหาวิธีการจัดการเรียนการสอนรูปแบบต่าง ๆ
5.  หน้าที่อื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้างานและสถานศึกษา
แนวทางการพัฒนาอาชีพครู
1.  ครูในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
1.1  ครูวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
1.2  ครูวิทยฐานะเชี่ยวชาญ
1.3  ครูวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ
2.  ครูเอกชน
3.  ครูอัตราจ้าง
4.  ครูพี่เลี้ยงเด็ก
5.  ผู้อำนวยการโรงเรียน
6.  เจ้าของกิจการสถานศึกษาเอกชน
7.  เจ้าของกิจการโรงเรียนกวดวิชา
8.  เปิดสอนพิเศษ
9.  ผู้ทรงคุณวุฒิ
10.  นักวิชาการ
11.  นักการศึกษา
12.  อื่น ๆ

อาชีพเภสัชกร
นิยามอาชีพ
          นำแนวคิดและทฤษฎีทางด้านเภสัชศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการเตรียมและผสมยาหรือจำหน่ายเวชภัณฑ์และยาต่าง ๆ เตรียมและจัดแจงเวชภัณฑ์ตามใบสั่งยาของแพทย์ ทันตแพย์และ สัตวแพทย์ หรือทำการผสมสูตรยา ตรวจดูใบสั่งยาเพื่อให้แน่ใจว่าขนาดของยาที่สั่งเป็นขนาดที่เหมาะสม และเพื่อให้แน่ใจว่าคนไข้ หรือผู้ที่จ่ายยาให้คนไข้ เข้าใจวิธีการใช้ยา รวมทั้งให้การแนะนำในกรณีที่เกิดการแพ้ยา จัดเวชภัณฑ์และยาใน
          โรงพยาบาล หรือจำหน่ายในร้ายขายยาทั่วไป จดบันทึกรายการยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาเสพติดสารพิษ และยาที่ก่อให้เกิดพฤติกรรมซ้ำซาก ทดสอบตัวยาเพื่อให้รู้ว่าเป็นยาอะไร สกัดยาให้บริสุทธิ์และเข้มข้นขึ้น มีส่วนร่วมในการพัฒนา กฎ ระเบียบ และข้อบังคับต่าง ๆ เขียนรายงานและวารสารทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนปฏิบัติหน้าที่การงานที่เกี่ยวข้องและควบคุมดูแลผู้ปฏิบัติงานอื่น ๆ
ลักษณะของงานที่ทำ
        ค้นคว้าและพัฒนาสูตรยาตำรับใหม่ๆเพื่อขึ้นทะเบียนและส่งสูตรที่สำเร็จแล้วให้ฝ่ายผลิตเพื่อทำการผลิตยาออกจำหน่าย ควบคุมการผลิตยาให้เป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ วิเคราะห์ ตรวจสอบยาที่ผลิตให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ ปรุงยา จ่ายยาและสิ่งที่เกี่ยวข้องตามใบสั่งหรือตามสูตร เตรียมการผลิตยา เช่นยาน้ำ ยาขี้ผึ้ง ยาผง ยาเม็ดกลม ยาเม็ดแบน แค็ปซูล และยาฉีดตามใบสั่งของแพทย์หรือตามสูตรที่ได้รับการรับรองแล้ว ชี้แจงแก่แพทย์ พยาบาลและผู้ปฏิบัติงานในแขนงอื่นๆ ทางการแพทย์เกี่ยวกับยา เคมีภัณฑ์และการใช้สิ่งนั้นๆ ควบคุมและจ่ายยาเสพติดให้โทษ ยาพิษ และสารพิษที่ต้องการใช้เพื่อการแพทย์ กิจการในบ้าน อุตสาหกรรมหรือเกษตรกรรม และจ่ายสิ่งนั้นๆ ตามกฎข้อบังคับ ทำหน้าที่วิเคราะห์และทดสอบตามปกติ เพื่อให้ทราบชนิดความบริสุทธิ์และความแรงของยา จัดระเบียบและควบคุมรักษายาในคลังทำบัญชีประจำคลังโดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ เช่น ยาเสพติดให้โทษ ยาอันตราย ยาสามัญ เคมีภัณฑ์และเครื่องใช้ในการแพทย์ อาจจัดซื้อเวชภัณฑ์ และเคมีภัณฑ์และสะสมเครื่องใช้ในการแพทย์ไว้จ่ายแก่คนไข้ และห้องรักษาโรค อาจผลิต จำหน่าย และชี้แจงเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์ เช่น สุขภัณฑ์ เครื่องสำอาง เคมีภัณฑ์สำหรับเกษตรกรรมและพืชสวน และยาสำหรับสัตว์ ศึกษาวิธีการปฏิบัติงานที่รับผิดชอบ รวมทั้งวิธีการใช้เครื่องมือต่างๆ เช่นเครื่องจักรที่ใช้ผลิตยา เครื่องมือในการวิเคราะห์ รวมทั้งการเตรียมความพร้อมของเครื่องมือ

สภาพการจ้างงาน
          ผู้ปฏิบัติงานอาชีพนี้ได้รับค่าตอบแทนการทำงานเป็นเงินเดือนตามวุฒิการศึกษา เภสัชกรที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีซึ่งไม่มีประสบการณ์ในการทำงานจะได้รับเงินเดือนในอัตรา ดังนี้

     ประเภทองค์กร                      เงินเดือน
       ราชการ                                     7,260
      รัฐวิสาหกิจ                                  8,500
      เอกชน                               15,000 –18,000

          ทำงานสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมง แต่อาจจะต้องทำงานวันเสาร์ วันอาทิตย์ และ วันหยุด หรือทำงานล่วงเวลา ในกรณีที่ต้องการให้งานที่ได้รับมอบหมายเสร็จให้ทันต่อการใช้งาน
          นอกจากผลตอบแทนในรูปเงินเดือนแล้ว ในภาครัฐวิสาหกิจและภาคเอกชนอาจได้รับผลตอบแทนในรูปอื่น เช่น ค่ารักษาพยาบาล เงินสะสม เงินช่วยเหลือสวัสดิการในรูปต่างๆ เงินโบนัส เป็นต้น 
สภาพการทำงาน
          ผู้ประกอบอาชีพเภสัชกรอาจต้องทำงานในห้องทดลอง เพื่อปฏิบัติงานด้านปรุงยา จ่ายยาและสิ่งที่เกี่ยวข้องตามใบสั่งหรือสูตร เตรียมหรือควบคุมการผลิตยา  (ยาน้ำ ยาขี้ผึ้ง ยาผง ยาเม็ดกลม ยาเม็ดแบน  แคปซูล  และยาฉีด)  ตามใบสั่งของแพทย์  หรือตามสูตรที่รับรองกันแล้ว ทำการทดสอบยา ต้องอยู่กับสารเคมีที่ต้องใช้ในการทดสอบ ซึ่งสารเคมีในห้องปฏิบัติการทดลองอาจจะทำปฏิกิริยาที่ทำให้เป็นอันตรายได้ ดังนั้น จึงต้องรู้จักวิธีใช้ และวิธีป้องกันรวมทั้งปฏิบัติงานตามขั้นตอนตามระเบียบที่กำหนดไว้ ต้องทำงานในบริเวณที่กำหนด และเป็นบริเวณห้ามสูบบุหรี่หรือรับประทานอาหารต้องใช้อุปกรณ์ป้องกัน  เช่น  ถุงมือ  หน้ากาก เป็นต้น
          เภสัชกรอาจจะทำงานในห้องจ่ายยา  หรือร้านขายยาโดยทำหน้าที่ควบคุมการจัดยาให้ถูกต้องตามแพทย์สั่ง จัดระเบียบควบคุมรักษายาในคลัง และแนะนำคนไข้ในการใช้ยา

คุณสมบัติของผู้ประกอบอาชีพ
1.  สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไปในสาขาวิชาเภสัชศาสตร์
2.  มีสุขภาพกายและจิตใจดี  ไม่พิการ   ไม่ตาบอดสี  มีมนุษยสัมพันธ์ดี    มีความสามารถเป็นผู้นำได้เนื่องจากอาจจะทำงานควบคุมผู้อื่นโดยเฉพาะในงานการผลิต มีบุคลิกภาพดี
3.  รักในอาชีพนี้ มีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวมสูง
4.  ต้องมีความสนใจในวิชาวิทยาศาสตร์ เคมี ชีววิทยา และสามารถสอบได้คะแนนดีในวิชาเหล่านี้
5.  ชอบการค้นคว้าทดลอง การใช้ปัญญาในการวิเคราะห์
6.  มีความละเอียดรอบคอบ ช่างสังเกต
7.  ซื่อสัตย์ต่ออาชีพ
8.  ผู้ที่สนใจประกอบอาชีพนี้ต้องชอบการท่องจำ เพราะจำเป็นต้องจำชนิดของยา ส่วนประกอบของยา ชื่อและประโยชน์ของต้นไม้ที่มีฤทธิ์ทางยารวมทั้งชื่อยาและชื่อสารเคมีที่ใช้ในการรักษาโรค
ผู้ที่จะประกอบอาชีพนี้ควรเตรียมความพร้อมดังต่อไปนี้
          สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า สมัครสอบคัดเลือกเข้าศึกษาระดับอุดมศึกษา ในคณะเภสัชกรรม สาขาวิชาเภสัชศาสตร์  (หลักสูตร 6 ปี) จากสถาบันอุดมศึกษาของภาครัฐหรือภาคเอกชน  เช่น  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย   มหาวิทยาลัยขอนแก่น    มหาวิทยาลัยเชียงใหม่   มหาวิทยาลัยมหิดล  เป็นต้น
 โอกาสในการมีงานทำ
         ปัจจุบัน ความต้องการยาสำหรับรักษาโรคทางการแพทย์แผนปัจจุบัน และแผนโบราณเพิ่มมากขึ้นตามอัตราการเพิ่มขึ้นของประชากรและชนิดของเชื้อโรคที่พัฒนาตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป การพัฒนาคุณภาพของยา ตลอดจนการควบคุมขั้นตอนการผลิตยารักษาโรค ให้มีประสิทธิภาพในการบำบัดรักษาต้องดำเนินการอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้มียาที่สามารถใช้ในการรักษาบำบัดโรคต่างๆ ที่เพียงพอกับจำนวนประชากร เภสัชกรจึงยังเป็นที่ต้องการทั้งทางภาครัฐและภาคเอกชนเป็นอย่างมากแนวโน้มของโอกาสในการมีงานทำของอาชีพนี้ ยังคงมีอยู่ ดังนั้น ผู้สำเร็จการศึกษาทางด้านนี้สามารถหางานทำได้ง่าย และหากไม่เลือกงานก็จะไม่มีการตกงานเลยสำหรับเภสัชกร อาชีพเภสัชกรสามารถทำงานในหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ เช่น โรงพยาบาล องค์การเภสัชกรรม ส่วนในหน่วยงานเอกชน ได้แก่ บริษัทผลิตยา บริษัทนำเข้ายา บริษัทผลิตเครื่องสำอางหรืออาจประกอบธุรกิจส่วนตัว โดยการเปิดร้านขายยา

โอกาสความก้าวหน้าในอาชีพ
          ผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นข้าราชการในโรงพยาบาลทั่วไป ในองค์การเภสัชกรรม  จะได้รับตำแหน่งและเลื่อนขั้นยศตามขั้นตอนของระบบราชการ  การศึกษาต่อเพิ่มเติมจะช่วยให้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งได้รวดเร็วและสามารถเป็นถึงผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานได้ ส่วนในภาคเอกชนนั้นขึ้นอยู่กับโครงสร้างการบริหารงานขององค์กร ซึ่งสามารถเป็นผู้จัดการโรงงาน ผู้จัดการด้านคุณภาพหรือผู้จัดการ ฝ่ายขาย
          เภสัชกรสามารถประกอบธุรกิจส่วนตัว คือ  เป็นเจ้าของร้านขายยาสำหรับผู้ที่สามารถผลิตยาหรือผลิตภัณฑ์อื่นที่สามารถบำบัดรักษาอาการ เจ็บป่วยหรือบำรุงรักษาสุขภาพได้โดยผ่านการทดสอบและได้รับอนุญาตจากองค์การเภสัชกรรมสามารถจดลิขสิทธ์การเป็นเจ้าของสูตรในการปรุงยา  หรือผลิตภัณฑ์นั้น และผลิตเป็นสินค้าออกจำหน่ายในลักษณะอุตสาหกรรมได้เช่นกัน
อาชีพที่เกี่ยวเนื่อง
          ตัวแทนจำหน่ายยา เจ้าของร้านขายยา ผู้ควบคุมห้องทดลองปฏิบัติการ   พนักงานตรวจสอบอาหารและยา
  
อาชีพอิสระ
ความหมายและความสำคัญของการประกอบอาชีพอิสระ
ความหมายของอาชีพอิสระ
         คำว่า "  อาชีพอิสระ "    ได้มีผู้ให้ความหมายไว้ต่าง ๆ กัน  โดยมีระดับของเงื่อนไขมากน้อยต่างกันไป  อาทิเช่น
 อาชีพอิสระ  หมายถึง  อาชีพที่ประกอบกันเป็นธุรกิจที่ต้องใช้ความรู้หรือทักษะที่ต้องการ  การฝึกฝนอบรมพอสมควร  เช่น  อาชีพทำของที่ระลึกด้วยวัสดุที่มีในท้องถิ่น  การปลูกผัก  การเลี้ยงปลา  การประกอบอาหารเป็นต้น  และผู้ประกอบการอิสระ  หมายถึง  ผู้ประกอบการขนาดย่อมที่เป็นธุรกิจ
         อาชีพอิสระ  เป็นอาชีพที่สามารถดำเนินการเองได้โดยลงทุนน้อย  ใช้ความคิด  กำลังกายค่อนข้างมาก  เน้นการพึ่งตนเอง  คำว่าอาชีพอิสระมีความหมายคล้ายกันกับอาชีพส่วนตัว  ธุรกิจขนาดย่อม  การประกอบการขนาดย่อม เป็นต้น
 อาชีพอิสระหมายถึง  ธุรกิจเป็นอิสระ  มีเอกชนเป็นเจ้าของ  ดำเนินการโดยเจ้าของเอง  ไม่เป็นเครื่องมือของธุรกิจใด  และไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของบุคคลอื่น  หรือธุรกิจอื่น
         อาชีพอิสระหมายถึง  อาชีพส่วนตัวทั้งในภาคเศรษฐกิจที่เป็นระบบ  ( Formal  Sector )  และภาคเศรษฐกิจที่ไม่เป็นระบบ  ( Informal  Sector )  เจ้าของกิจการเป็นผู้ประกอบการเองทั้งหมดหรือบางส่วนก็ได้  โดยได้รับค่าตอบแทนเป็นรูปของกำไร  ไม่ใช่เงินเดือน
         อาชีพอิสระ  หมายถึง  อาชีพที่มีลักษณะ  ดังนี้
1. เจ้าของกิจการไม่เป็นลูกจ้าง  รับเงินเดือนจากนายจ้าง  แต่ได้รับค่าตอบแทนจากลูกค้า
2. เจ้าของกิจการเป็นผู้ลงมือกระทำเองในฐานะผู้ปฏิบัติงาน
3. มีผู้ช่วยเหลือปฏิบัติงานโดยอาจได้เงินเดือนหรือค่าจ้างเป็นรายชิ้นก็ได้  จำนวนไม่เกิน  5
 คน  และใช้ทุนดำเนินการไม่เกิน  500,000  บาท
         อาชีพอิสระนี้ไม่สามารถแยกจากธุรกิจขนาดย่อมหรือการประกอบการขนาดย่อมได้ชัดเจนเพราะมีความคล้ายคลึงและเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน  บอมแบ็ค  ( Baumback  ,  1988 )  ให้คำจำกัดความของธุรกิจขนาดย่อม  ว่าเป็นธุรกิจที่เจ้าของเป็นผู้จัดการธุรกิจด้วยตนเอง  มีความเป็นอิสระ  ส่วนใหญ่อยู่ในท้องถิ่น  และอาศัยแหล่งทุนภายในในการขยายกิจการอีกความหมายหนึ่งของธุรกิจขนาดย่อมที่ได้รับการยอมรับ  เป็นความหมายที่ได้รับการเสนอแนะโดย  The  Committee  for  Economic  Develment  ( CED )  ของสหรัฐอเมริกา  ได้ให้ความหมายของธุรกิจขนาดย่อมไว้ว่าเป็นธุรกิจที่มีลักษณะอย่างน้อยที่สุด  2  ประการจากลักษณะ  4  ประการ  ดังต่อไปนี้
1. การบริหารงานเป็นอิสระ  เจ้าของเป้นผู้บริหารงานเอง
2. บุคคลเดียวหรือกลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่งจัดหาเงินทุนและเป็นเจ้าของธุรกิจ
3. ขอบเขตการดำเนินงานอยู่ในท้องถิ่นเป็นส่วนมาก  พนักงานและเจ้าของอาศัยอยู่ในชุมชนเดียวกัน  แต่ตลาดของสินค้าหรือบริการไม่จำเป็นต้องอยู่ในท้องถิ่นนั้นก็ได้
4. ธุรกิจมีขนาดเล็กเมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจขนาดใหญ่ที่สุดในธุรกิจประเภทเดียวกัน  หลัก
เกณฑ์ที่ใช้วัดอาจจะเป็นจำนวนพนักงาน  ยอดขาย  หรือทรัพย์สิน
          การประกอบการขนาดย่อมมีลักษณะ  2  ประการ  เหมือนอาชีพอิสระ  กล่าวคือ  เป็นอาชีพที่เจ้าของไม่เป็นลูกจ้าง  รับเงินเดือนจากนายจ้าง  แต่ได้รับค่าตอบแทนจากลูกค้าและเจ้าของกิจการเป็นผู้ลงมือกระทำเองในฐานะผู้ปฏิบัติงานแต่มีความแตกต่างในเรื่องจำนวนผู้ช่วยปฏิบัติงานและ
เงินทุนดำเนินงานกล่าวคืออาชีพอิสระจะมีผู้ช่วยปฏิบัติงานไม่เกิน5คนและทุนดำเนินการไม่เกิน500,000บาทแต่การประกอบการขนาดย่อมจะมี
ผู้ช่วยปฏิบัติงาน  ตั้งแต่  6 - 50  คน    และทุนการดำเนินการตั้งแต่  500,000  บาท  แต่ไม่เกิน  6,000,000  บาท
                    สำหรับคำว่า  ผู้ประกอบการอาชีพอิสระ  หมายถึง  เจ้าของกิจการหรือผู้ที่ทำงานธุรกิจต่าง ๆ นอกเหนือไปจากอาชีพลูกจ้าง  พนักงานราชการที่ได้รับค่าตอบแทนเป็นค่าจ้างรายเดือนหรือรายวัน  รวมถึงผู้ที่ช่วยครอบครัวประกอบธุรกิจและได้รับค่าตอบแทนจากผลกำไร  หรืออาจมีความหมายว่า  หมายถึง  บุคคลที่เป็นเจ้าของธุรกิจ  ที่ประกอบอาชีพหารายได้เองโดยไม่มีนายจ้าง  ไม่อยู่ในฐานะลูกจ้าง  แต่เป็นนายตนเอง  เป็นเจ้าของกิจการและจะต้องปฏิบัติงานเอง  อาจมีผู้ปฏิบัติงานด้วยก็ได้ แต่เนื่องจากการทำโครงงานครั้งนี้มีกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่  ผู้มีอายุระหว่าง
13 - 15  ปี  จึงได้กำหนดคำจำกัดความของอาชีพอิสระในความหมายกว้างว่า                 อาชีพอิสระหมายถึงอาชีพที่ผู้ประกอบอาชีพเป็นเจ้าของกิจการเองทั้งหมดหรือบางส่วนก็ได้  โดยไม่รับค่าจ้างจากผู้อื่นในลักษณะของเงินเดือนหรือค่าแรงประจำ  และรับผิดชอบต่อการดำเนินการทั้งในส่วนของกำไร  หรือขาดทุน  โดยอาจจะมีผู้ช่วยปฏิบัติงานหรือไม่ก็ได้

บทที่ 3

วิธีดำเนินการ
วิธีดำเนินการ
    1) ประชุมงาน
    2) ศึกษากับอาชีพ
    3) สำรวจแหล่งข้อมูลต่างๆ
    4) สัมภาษณ์
    5) นำข้อมูลมารวบรวม
    6) สรุปผล
แหล่งที่มาของข้อมูล
     1 เอกสารอ้างอิง หนังสือที่เกี่ยวกับอาชีพต่างๆ
     2 แหล่งวิทยากร แหล่งเรียนรู้ สถานประกอบการ เว็บไซต์
     3 บุคลากร ผู้ปกครอง ผู้ที่มีความรู้เรื่องอาชีพ เจ้าของอาชีพที่ไปสัมภาษณ์
วิธีการศึกษาเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูล
ที่
ขั้นตอนการปฏิบัติ
ระยะเวลา (วัน/เดือน/ปี)
ผู้รับผิดชอบ
1
ประชุมงาน
1 สิงหาคม 2556
ทุกคน
2
ศึกษากับอาชีพ
5 สิงหาคม 2556
น.ส.ณัฐวดี  วรพลาวุฒิ
3
สำรวจแหล่งข้อมูลต่างๆ
10 สิงหาคม 2556
น.ส.ศรัณยา  ขวัญสมคิด ,
นายกฤชณัท สายบัวทอง
4
สัมภาษณ์
20 สิงหาคม 2556
น.ส.นภา  โรจน์อรุณ ,
นายชยากร นาคเกษม
5
นำข้อมูลมารวบรวม
1 กันยายน 2556
น.ส.ประทุมมาศ สมทรัพย์เจริญ
6
สรุปผล
4 กันยายน 2556
น.ส.ปาลิตา  เลิศสิทธิชัย
บทที่ 4
ผลการดำเนินงานหรือผลการวิเคราะห์ข้อมูล
        อาชีพ
     คุณลักษณะ
   คุณสมบัติ
1.ค้าขาย
เป็นอาชีพอิสระ ต้องหาสิ่งใหม่ๆมาดึงดูดลูกค้า
ซื่อสัตย์ รักษามาตรฐานการขาย
2.เภสัชกร
ค้นคว้าและพัฒนาสูตรยาอยู่ใหม่ๆ
มีความรอบคอบ ช่างสังเกต
3.มาร์เก็ตติ้ง (Marketing)
ตรงต่อเวลา พูดจาไพเราะน่าฟัง
มีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม
4.ผู้แทนยา (Detailer)
ตรงต่อเวลา ซื่อสัตย์
มีความสนใจในอาชีพนี้
5.กราวน์ (Ground)
ต้องพูดได้หลายภาษา ตรงต่อเวลา
มีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม
6.ครู
มีอารมณ์ขัน มีวิธีการสอนที่ดี มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มีความสามารถเข้าใจนักเรียน
มีความรู้ความเข้าใจในวิชาที่สอน มีสัมพันธภาพที่ดีต่อครู นักเรียน ผู้ปกครอง










     บทที่ 5
สรุป อภิปรายและข้อเสนอแนะ
            อาชีพเป็นการทำมาหากินที่เกิดจากกิจกรรมหรือบริการใดๆ ที่ก่อให้เกิดผลผลิตและรายได้ ซึ่งเป็นงานประจำที่สุจริต ไม่ผิดศีลธรรม
            อาชีพมีความสำคัญเพราะจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นต่อคนรอบข้าง และสามารถทำให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้
            ทำให้เราได้พัฒนาสมองอยู่ตลอดเวลา เพราะจะต้องหาข้อมูลที่นำมาใช้กับเนื้อเรื่องเมื่อหาข้อมูลมาได้ก็ต้องนำกลับมาวิเคราะห์และเรียบเรียงเขียนใหม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น